ลบ
แก้ไข
Phyu Phyu Kyaw Thein ได้รับสมญานามว่าเป็น เลดี้ กาก้า ของพม่า เพราะการแต่งตัวที่โดดเด่นและการแสดงบนเวทีที่แปลกแตกต่างไปจากคนอื่น
Phyu Phyu Kyaw Thein เป็นนักร้องสาววัย 31 ที่อยู่ในธุรกิจดนตรีมายาวนานเกือบทศวรรษคนนี้มีดีกรีเป็นถึงแพทย์หญิง โดยนอกจากปริญญาแพทยศาสตร์แล้ว เธอยังเป็นเลขาธิการสมาคมดนตรีแห่งพม่า และเป็นตัวแทนทูตองค์กรการกุศลของอังกฤษเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์อีกด้วย
และอัลบั้มล่าสุดของเธอ "A Girl is Broken-hearted" ก็ขึ้นชาร์ตเพลงอันดับหนึ่งในพม่า และติดท็อปเทนอย่างนั้นอยู่นานถึง 3 เดือน
และนี่คือบทสัมภาษณ์ของ พิว พิว จ่อ เต็ง ที่ให้กับ จอ เพียว ตา นักข่าวจาก "สำนักข่าวอิระวดี"
"คุณชอบบทบาทไหนมากกว่ากัน การเป็นหมอหรือการเป็นนักร้อง?"
"การจะเป็นหมอคุณต้องเฉลียวฉลาดและทำงานอย่างหนัก แต่การเป็นศิลปินคุณต้องมีพรสวรรค์และไหวพริบ คนส่วนใหญ่คิดว่า 2 อย่างนี้มันตรงกันข้ามกัน มันเป็นการผสมผสานที่ยากนะ และฉันก็ภูมิใจที่ฉันเป็นคนหนึ่งในน้อยคนที่มี 2 อย่างนั้นอยู่ในตัว แต่สำหรับตอนนี้แล้วฉันคิดว่าฉันเป็นนักร้องมีอาชีพมากกว่า"
"ถ้างั้นคุณไม่คิดหรือว่าเวลาที่คุณใช้เรียนแพทย์มันสูญเปล่า?"
"ไม่หรอก! มันไม่เหมือนกับว่าฉันใช้เวลา 6-7 ปี กับการติดบาร์หรือไปปาร์ตี้หรอกนะ และหากใครคิดว่าการเป็นหมอที่หันมาเป็นนักร้องคือการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์แล้วล่ะก็ เขาควรไปพูดกับกระทรวงสาธารณสุข"
"คุณคิดยังไงกับการถูกเรียกว่า "เลดี้กาก้า แห่งพม่า"?"
"อืมม...มันก็รู้สึกดีอยู่หรอกที่ถูกเปรียบเทียบกับนักร้องดังระดับโลก แต่เธอกับฉันมาจากโลกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อีกอย่างฉันเป็นที่รู้จักจากการแสดงที่ไม่ธรรมดาของฉัน ตั้งแต่ฉันเริ่มแสดงเมื่อปี 2546 ในตอนที่พม่ายังคงปิดประเทศอยู่ด้วยซ้ำ และนั่นก็นานก่อนที่เลดี้กาก้าจะโด่งดังอย่างทุกวันนี้"
"ทำไมคุณถึงใส่เสื้อผ้าที่ตกแต่งมากมายขนาดนั้น?"
"เพราะฉันชอบมัน พี่สาวของฉันเป็นดีไซเนอร์ และในวัฒนธรรมพม่าเราก็เต็มไปด้วยสีสันและรูปแบบมากมาย มันไม่ใช่อะไรใหม่เลย เพราะว่าชุดของการแสดงพื้นเมืองแบบนี้ก็มีมานานแล้ว เราแค่ปรับให้มันเข้ากับแฟชั่นในวันนี้เท่านั้นเอง แต่ฉันชอบแต่งตัวให้ผสมกลมกลืนไปกับวัฒนธรรมนะ เพียงแต่มันดูไม่ค่อยชัดเจนเท่าใดนัก"
"ถ้าให้คุณวิจารณ์การแสดงสดของคุณ คุณจะพูดว่ายังไง?"
"ฉันคิดว่าถ้าเทียบกับมาตรฐานในระดับนานาชาติแล้วมันก็ไม่ได้พิเศษมากสักเท่าไหร่ แต่พม่าเป็นประเทศปิดมานาน และผู้คนก็ยังคงปิดความคิดของพวกเขาด้วย คุณต้องยอมรับว่าคุณจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ถ้าคุณพยายามจะสร้างสรรค์ความแตกต่าง แต่จริงๆ แล้วนั่นก็เป็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เพราะถึงแม้ว่าพม่าจะถูกปิดกั้นจากโลกภายนอกหลายสิบปี แต่ชาวพม่าส่วนใหญ่ยังคงสามารถชื่นชมคุณค่าของศิลปะได้"
"ในความเห็นของคุณการสิ้นสุดระบบการเซ็นเซอร์จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไหม?"
"ฉันมีประสบการณ์แย่ๆ กับการเซ็นเซอร์หลายครั้ง ดังนั้น ฉันคิดว่ามันคงจะดีมากหากเราไม่ต้องเผชิญหน้ากับการกำหนดขอบเขตแบบนั้น แต่ตัวศิลปินเองก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วย"
"ในฐานะของเลขาธิการสมาคมดนตรีของพม่า คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างรุนแรงในประเทศนี้?"
"นี่คือความแตกต่างอันยิ่งใหญ่ระหว่างเลดี้กาก้าในประเทศพัฒนาแล้วกับ พิว พิว จ่อ เต็ง ในประเทศด้อยพัฒนา ในพม่าคนมองการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นเพียงหนทางหนึ่งในการประกอบอาชีพ สมาคมดนตรีแห่งพม่าพยายามให้การศึกษากับผู้คนว่าการละเมิดลิขสิทธิ์คืออาชญากรรม ที่จะได้รับโทษเป็นการจำคุกระยะสั้น หรือเสียค่าปรับสูงถึง 500,000 จ๊าด (ราว 625 เหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 20,000 บาท) เป้าหมายของเราคือการแก้ไขกฎหมายและทำให้มันมีผลบังคับใช้ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายต้องซื่อสัตย์และโปร่งใส ในระยะสั้นนี้สิ่งที่เราต้องการคือหลักนิติธรรม"
"ช่วยบอกเราเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำใน MTV EXIT และการรณรงค์ขององค์กรการกุศลของอังกฤษเพื่อกระตุ้นความตระหนักในเรื่องการค้ามนุษย์หน่อยได้ไหม?"
"ฉันอยู่ในกลุ่มตัวแทนทูตของบุคคลที่มีชื่อเสียงของพม่าในการรณรงค์นี้มาตั้งแต่ปี 2551 ฉันเป็นพิธีกรในสารคดีภาษาพม่าชื่อ Traffic และในปีเดียวกันนั้น ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งในคอนเสิร์ต MTV EXIT ในกรุงเทพฯ เพื่อสร้างความตระหนักถึงการค้ามนุษย์ และฉันก็กำลังจะเข้าร่วมอีกหนึ่งคอนเสิร์ตในปีนี้"
"คงเห็นแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ต่างกับ "เลดี้กาก้า" ที่เธอถูกนำไปเปรียบเห็นๆ"
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก Phyu Phyu Kyaw Thein - Cherry Lan ,variety.thaiza.com
เลดี้กาก้าแห่งพม่า
Phyu Phyu Kyaw Thein ได้รับสมญานามว่าเป็น เลดี้ กาก้า ของพม่า เพราะการแต่งตัวที่โดดเด่นและการแสดงบนเวทีที่แปลกแตกต่างไปจากคนอื่น
Phyu Phyu Kyaw Thein เป็นนักร้องสาววัย 31 ที่อยู่ในธุรกิจดนตรีมายาวนานเกือบทศวรรษคนนี้มีดีกรีเป็นถึงแพทย์หญิง โดยนอกจากปริญญาแพทยศาสตร์แล้ว เธอยังเป็นเลขาธิการสมาคมดนตรีแห่งพม่า และเป็นตัวแทนทูตองค์กรการกุศลของอังกฤษเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์อีกด้วย
และอัลบั้มล่าสุดของเธอ "A Girl is Broken-hearted" ก็ขึ้นชาร์ตเพลงอันดับหนึ่งในพม่า และติดท็อปเทนอย่างนั้นอยู่นานถึง 3 เดือน
และนี่คือบทสัมภาษณ์ของ พิว พิว จ่อ เต็ง ที่ให้กับ จอ เพียว ตา นักข่าวจาก "สำนักข่าวอิระวดี"
"คุณชอบบทบาทไหนมากกว่ากัน การเป็นหมอหรือการเป็นนักร้อง?"
"การจะเป็นหมอคุณต้องเฉลียวฉลาดและทำงานอย่างหนัก แต่การเป็นศิลปินคุณต้องมีพรสวรรค์และไหวพริบ คนส่วนใหญ่คิดว่า 2 อย่างนี้มันตรงกันข้ามกัน มันเป็นการผสมผสานที่ยากนะ และฉันก็ภูมิใจที่ฉันเป็นคนหนึ่งในน้อยคนที่มี 2 อย่างนั้นอยู่ในตัว แต่สำหรับตอนนี้แล้วฉันคิดว่าฉันเป็นนักร้องมีอาชีพมากกว่า"
"ถ้างั้นคุณไม่คิดหรือว่าเวลาที่คุณใช้เรียนแพทย์มันสูญเปล่า?"
"ไม่หรอก! มันไม่เหมือนกับว่าฉันใช้เวลา 6-7 ปี กับการติดบาร์หรือไปปาร์ตี้หรอกนะ และหากใครคิดว่าการเป็นหมอที่หันมาเป็นนักร้องคือการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์แล้วล่ะก็ เขาควรไปพูดกับกระทรวงสาธารณสุข"
"คุณคิดยังไงกับการถูกเรียกว่า "เลดี้กาก้า แห่งพม่า"?"
"อืมม...มันก็รู้สึกดีอยู่หรอกที่ถูกเปรียบเทียบกับนักร้องดังระดับโลก แต่เธอกับฉันมาจากโลกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อีกอย่างฉันเป็นที่รู้จักจากการแสดงที่ไม่ธรรมดาของฉัน ตั้งแต่ฉันเริ่มแสดงเมื่อปี 2546 ในตอนที่พม่ายังคงปิดประเทศอยู่ด้วยซ้ำ และนั่นก็นานก่อนที่เลดี้กาก้าจะโด่งดังอย่างทุกวันนี้"
"ทำไมคุณถึงใส่เสื้อผ้าที่ตกแต่งมากมายขนาดนั้น?"
"เพราะฉันชอบมัน พี่สาวของฉันเป็นดีไซเนอร์ และในวัฒนธรรมพม่าเราก็เต็มไปด้วยสีสันและรูปแบบมากมาย มันไม่ใช่อะไรใหม่เลย เพราะว่าชุดของการแสดงพื้นเมืองแบบนี้ก็มีมานานแล้ว เราแค่ปรับให้มันเข้ากับแฟชั่นในวันนี้เท่านั้นเอง แต่ฉันชอบแต่งตัวให้ผสมกลมกลืนไปกับวัฒนธรรมนะ เพียงแต่มันดูไม่ค่อยชัดเจนเท่าใดนัก"
"ถ้าให้คุณวิจารณ์การแสดงสดของคุณ คุณจะพูดว่ายังไง?"
"ฉันคิดว่าถ้าเทียบกับมาตรฐานในระดับนานาชาติแล้วมันก็ไม่ได้พิเศษมากสักเท่าไหร่ แต่พม่าเป็นประเทศปิดมานาน และผู้คนก็ยังคงปิดความคิดของพวกเขาด้วย คุณต้องยอมรับว่าคุณจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ถ้าคุณพยายามจะสร้างสรรค์ความแตกต่าง แต่จริงๆ แล้วนั่นก็เป็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เพราะถึงแม้ว่าพม่าจะถูกปิดกั้นจากโลกภายนอกหลายสิบปี แต่ชาวพม่าส่วนใหญ่ยังคงสามารถชื่นชมคุณค่าของศิลปะได้"
"ในความเห็นของคุณการสิ้นสุดระบบการเซ็นเซอร์จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไหม?"
"ฉันมีประสบการณ์แย่ๆ กับการเซ็นเซอร์หลายครั้ง ดังนั้น ฉันคิดว่ามันคงจะดีมากหากเราไม่ต้องเผชิญหน้ากับการกำหนดขอบเขตแบบนั้น แต่ตัวศิลปินเองก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วย"
"ในฐานะของเลขาธิการสมาคมดนตรีของพม่า คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างรุนแรงในประเทศนี้?"
"นี่คือความแตกต่างอันยิ่งใหญ่ระหว่างเลดี้กาก้าในประเทศพัฒนาแล้วกับ พิว พิว จ่อ เต็ง ในประเทศด้อยพัฒนา ในพม่าคนมองการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นเพียงหนทางหนึ่งในการประกอบอาชีพ สมาคมดนตรีแห่งพม่าพยายามให้การศึกษากับผู้คนว่าการละเมิดลิขสิทธิ์คืออาชญากรรม ที่จะได้รับโทษเป็นการจำคุกระยะสั้น หรือเสียค่าปรับสูงถึง 500,000 จ๊าด (ราว 625 เหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 20,000 บาท) เป้าหมายของเราคือการแก้ไขกฎหมายและทำให้มันมีผลบังคับใช้ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายต้องซื่อสัตย์และโปร่งใส ในระยะสั้นนี้สิ่งที่เราต้องการคือหลักนิติธรรม"
"ช่วยบอกเราเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำใน MTV EXIT และการรณรงค์ขององค์กรการกุศลของอังกฤษเพื่อกระตุ้นความตระหนักในเรื่องการค้ามนุษย์หน่อยได้ไหม?"
"ฉันอยู่ในกลุ่มตัวแทนทูตของบุคคลที่มีชื่อเสียงของพม่าในการรณรงค์นี้มาตั้งแต่ปี 2551 ฉันเป็นพิธีกรในสารคดีภาษาพม่าชื่อ Traffic และในปีเดียวกันนั้น ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งในคอนเสิร์ต MTV EXIT ในกรุงเทพฯ เพื่อสร้างความตระหนักถึงการค้ามนุษย์ และฉันก็กำลังจะเข้าร่วมอีกหนึ่งคอนเสิร์ตในปีนี้"
"คงเห็นแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ต่างกับ "เลดี้กาก้า" ที่เธอถูกนำไปเปรียบเห็นๆ"
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก Phyu Phyu Kyaw Thein - Cherry Lan ,variety.thaiza.com
เกี่ยวกับประเทศ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-
Visit of ASEAN China Broadcasting Personnel to ThailandMedia Forum: Media Convergence, Media Integration, News and Program Production ส่วนอาเซียน สำนักการประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ จัดโครงการสื่อมวลชนอาเซียน...by dogTech
-
DreadOut เป็นเกมอินดี้แนวหลอนที่พัฒนาโดยบริษัทผู้พัฒนาเกมในประเทศอินโดนีเซีย ตอนที่ผมเขียนอยู่นี้ เกมนี้เพิ่งเลื่อนอันดับ ไปติดอันดับ 7 ใน Top 100 ของเว็บ Indie DB ซึ่งอันดับต้นๆ...by Editor Bow
-
ทีวีดิจิตอลที่เปิดกันมาได้ 6 เดือนก็พอจะมองเห็นได้ว่า ใครตั้งใจลุยจริง ใครที่กล้าๆ กลัวๆ!! ยังพบเห็นหลายช่อง ประเภทซื้อรายการยกโหลเหมาเข่งมาแข่งกันออกอากาศ ซึ่งในปีหน้าบอกได้เลยว่า ได้เห็นแน่นอนว่าใครจะได้ไปต่อ...by Editor
-
ลอร์ดพัตนัม (Lord Puttnam) ถ่ายภาพร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ในนครเวียงจันทน์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายลาว ในโอกาสไปเยือนสันถวไมตรีปรเทศนี้ ในฐานะผู้แทนการค้าของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน (David Cameron)...by Editor